ไฮไลท์บอล เลกาเนส 2-3 เรอัลมาดริด ชุดขาวได้ไปต่อ ศึก โกปา เดล เรย์

ไฮไลท์บอล เลกาเนส 2-3 เรอัลมาดริด

ไฮไลท์บอล เลกาเนส 2-3 เรอัลมาดริด เรียกว่าเป็นเกมระดับ “แอ็กชันบล็อกบัสเตอร์” ก็ไม่ปาน สำหรับศึกฟุตบอล โกปา เดล เรย์ รอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่สนามเอสตาดิโอ บูตาร์เก้ เมื่อคืนวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 68 ที่ผ่านมา โดย “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด (Real Madrid) ทีมขวัญใจมหาชนฉายา “ราชันชุดขาว” ต้องออกไปเยือน เลกาเนส (CD Leganés) เจ้าของฉายา “Los Pepineros” ที่เกมในบ้านไม่ใช่จะปราบกันง่าย ๆ แม้ฟอร์มโดยรวมอาจจะตกลงไปบ้าง แต่การเจอกับของแข็งอย่างมาดริด ก็ถือเป็นโอกาสทองให้แฟนบอลได้สัมผัสบรรยากาศสุดลุ้นระทึก

เปิดฉากมา เรอัล มาดริด ดูจะครองเกมดีกว่า แต่หารู้ไม่ว่าทางเจ้าถิ่นก็เตรียมเซอร์ไพรส์เล็ก ๆ ไว้เหมือนกัน หลายคนลุ้นกันว่าการเจอกันครั้งนี้ มาดริดจะยิงกระจายหรือไม่ เพราะเพิ่งได้จอมดาวรุ่งอย่าง “เอ็นดริค” มาลงสนามผสมผสานกับแข้งจอมเก๋าอย่าง ลูกา โมดริช และยังมีสตาร์อีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น วินิซิอุส จูเนียร์, โรดรีโก้ รวมไปถึง วัลเวร์เด้ และ บราฮิม ดิอาซ

แต่บอกเลยว่าครึ่งแรกก็ทำเอาแฟน ๆ สองฝั่งหัวใจจะวายกับจังหวะจบสกอร์ที่ผลัดกันรุกผลัดกันรับ อีกทั้งยังมีโมเมนต์ตลก ๆ อย่างการประทะกันเองของผู้เล่นที่ทำเอาโค้ชทั้งสองฝั่งต้องลุกจากม้านั่งมาขยี้ตาอีกทีว่าจะเปลี่ยนแผนดีไหม สุดท้ายจบเกมด้วยสกอร์ 3-2 คว้าตั๋วสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ ชนิดที่กองเชียร์มาดริดเกือบลืมวิธีหายใจเลยทีเดียว

รายละเอียดเกี่ยวกับ 11 ผู้เล่นตัวจริง เลกาเนส VS เรอัลมาดริด

เลกาเนส VS เรอัลมาดริด โกปา เดย์เลย์

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของ เลกาเนส

  • ผู้รักษาประตู: อันเดรส โซเรียโน่ (Andrés Soriano) – แม้จะเสียประตูไปถึง 3 ลูก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาเซฟช่วยทีมจนอาจได้รางวัล “มือเหนียวประจำแมตช์” ของฝั่งเจ้าถิ่น
  • กองหลัง: รามอน, ทาเปีย, โอมาร์, ฆัวกิน – เน้นเกมรับ ป้องกันอย่างอดทน และมีบทบาทสำคัญในการดักบอลจากตัวรุกความเร็วสูงของเรอัล มาดริด
  • แบ็กขวา-ซ้าย: ดีเอโก้ ริโก้, อัลบาโร่ ยืด – คอยเติมเกมบุกริมเส้น พร้อมวางบอลยาวให้เกมรุกได้ใช้ความเร็ว
  • กองกลาง: ฮวน ครูซ, เรเกโร่, โฆเซ่ (หรือในบางทีแฟนบอลเรียกติดปากว่า โจเซ่จอมบุก) – สามประสานแดนกลางที่เน้นตัดเกมและสร้างโอกาสสวนกลับไว
  • กองหน้า: เปเป้ เดลกาดิโย – ตัวยิงหลักของเลกาเนส แม้จะไม่มีสกอร์ในนัดนี้ แต่ก็มีส่วนร่วมช่วยเรียกฟาวล์และปั่นป่วนหลังบ้านมาดริดอยู่เนือง ๆ

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของ เรอัล มาดริด

  • ผู้รักษาประตู: อันเดรย์ ลูนิน (Andriy Lunin) – ได้โอกาสเฝ้าเสาในบอลถ้วย เซฟสวย ๆ ไปหลายครั้งแม้สกอร์จะเสียถึง 2 ลูก
  • กองหลัง: ดานี่ การ์บาฆาล, เอแดร์ มิลิเตา, รามอน (แข้งดาวรุ่ง), แฟร์กล็องด์ เมนดี้ – รับหน้าที่จัดการเกมรุกเลกาเนสและช่วยเติมเกมเมื่อมีโอกาส
  • กองกลาง: ลูกา โมดริช, เฟเด้ วัลเวร์เด้, บราฮิม ดิอาซ – สามห้องเครื่อง สลับกันบุก สลับกันยิง สลับกันจ่าย ฟอร์มเข้าขาเกินต้าน
  • แนวรุก: โรดรีโก้, เอ็นดริค, วินิซิอุส จูเนียร์ – ทัพสตาร์บราซิลเลียนผสมผสานยุคเก่าใหม่ พร้อมความสามารถเฉพาะตัวคับแก้ว

ไฮไลท์ผลบอล เลกาเนส 3 – เรอัล มาดริด ยิงกระจายถึง 5 ประตู

เกมนี้ถือเป็นบิ๊กแมตช์ของรอบ 8 ทีมสุดท้ายในศึก โกปา เดล เรย์ ที่ใครแพ้ก็ร่วงตกรอบทันที บรรยากาศก่อนเริ่มแข่งเต็มไปด้วยความคึกคักจากเสียงเชียร์ของแฟนบอลทั้งสองฝั่ง สนามเอสตาดิโอ บูตาร์เก้ แน่นขนัดจนแทบไม่มีที่นั่งว่าง สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่แข้งดาวรุ่งคนใหม่ของมาดริดอย่าง “เอ็นดริค” ซึ่งหลายคนรอลุ้นว่าเจ้าหนูรายนี้จะฉายแสงแค่ไหนในแมตช์คัด knockout แบบนี้ แถมยังมี “ลูกา โมดริช” ขวัญใจแฟน ๆ ที่แม้อายุจะเยอะขึ้น แต่ฟอร์มก็ยังแกร่งเหมือนถูกตั้งโปรแกรมอัปเดตทุกปี

นาทีที่18 มาดริด ขึ้นนำ 1-0

เริ่มเกมมาได้ไม่นาน รูปเกมก้ำกึ่งกันอยู่กลางสนาม แต่แล้วในนาทีที่ 18 แฟนบอลเจ้าถิ่นต้องกุมขมับกันเป็นแถว เมื่อ “โรดรีโก้” ลากบอลจากริมเส้นด้านขวา ก่อนแทงคิลเลอร์พาสสุดสวยให้ “ลูกา โมดริช” ที่วิ่งทะลุช่องเข้ามา จับบอลไม่กี่จังหวะก่อนจะดีดหนีมือของ “อันเดรส โซเรียโน่” นายด่านเลกาเนส ส่งบอลตุงตาข่ายแบบเลือดเย็น พา “ราชันชุดขาว” ขึ้นนำ 1-0

นาทีที่25 มาดริด ทะยาน 2-0

เพียง 7 นาทีถัดมา แฟน ๆ เรอัล มาดริด ได้เฮสนั่นอีกระลอก จากจังหวะต่อบอลเร็วของ “เฟเด้ วัลเวร์เด้” ที่ตั้งใจจะทำชิ่งกับ “บราฮิม ดิอาซ” แต่โดนแข้งเจ้าถิ่นอย่าง “ทาเปีย” สกัดไม่ขาด กลายเป็นเข้าทางปืนของ “เอ็นดริค” ที่ยืนโล่งอยู่คนเดียว ก่อนสับไกส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายไปง่าย ๆ แบบไม่ต้องออกแรงมาก สกอร์ทะยานไป 2-0

นาทีที่39 เลกาเนส ไล่มา 1-2 จากจุดโทษ

ดูเหมือนมาดริดจะคุมเกมได้อยู่หมัด แต่ในนาทีที่ 39 ก็เกิดจุดเปลี่ยนสำคัญ “เลกาเนส” ได้จุดโทษ หลังจากที่ “รามอน” (กองหลังมาดริด) ไปทำแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่านกหวีดยาวแบบไม่รอช้า และเป็น “ฮวน ครูซ” ผู้เรียกจุดโทษคนเดิม ที่ขันอาสายิงเรียดผ่านมือนายทวารทีมเยือนเข้าไป ทำเอาเจ้าถิ่นฮึกเหิมขึ้นอีกครั้ง สกอร์ขยับเป็น 2-1

ครึ่งหลังสุดเดือด นาทีที่ 59 ตีเสมอ 2-2 และปิดจ็อบ 3-2 ทดเจ็บ

กลับมาต่อในครึ่งหลัง เกมยังคงลุ้นกันสนุก และในนาทีที่ 59 “ครูซ” คนเดิมก็ทำให้แฟนบอลเจ้าถิ่นได้เฮลั่นอีก เมื่อเขากดเต็มข้อ บอลพุ่งไปแฉลบเท้าของ “แฟร์กล็องด์ เมนดี้” ก่อนเปลี่ยนทางเข้าประตูไปอย่างโชคช่วย ส่งสกอร์กลับมาเสมอ 2-2 จนกระทั่งช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90+3 ขณะที่หลายคนเริ่มคิดว่าน่าจะลากไปต่อเวลาพิเศษ สุดท้าย “บราฮิม ดิอาซ” เปิดบอลโค้งเข้าหาเขตโทษให้ “กอนซาโล่ การ์เซีย” ที่เพิ่งถูกเปลี่ยนลงมาไม่นาน กระโดดโขกยัดเสาแรกเข้าไปอย่างเฉียบขาด กลายเป็นประตูชัย 3-2 แบบสุดดราม่า พา “ราชันชุดขาว” ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้แบบยิ่งใหญ่

ผลบอล เลกาเนส 3 - เรอัล มาดริด

ขอแนะนำเว็บดังแห่งปี ทางเลือกใหม่สำหรับคอบอลทุกท่านเชิญพบกับ ลิงค์ดูบอลสด แจกฟรีดูบอลฟรีทุกคู่ทุกลีกได้ที่เว็บไซต์ ดูบอลดูหนัง.com ไม่มีค่าบริการใดๆทั้งสิ้น

เจาะฟอร์ม “เอ็นดริค” ดาวรุ่งสายเลือดแซมบ้า

“เอ็นดริค” กลายเป็นอีกหนึ่งแข้งที่ถูกจับตามองอย่างมากในเกมนี้ ไม่ใช่แค่เพราะเขาเพิ่งเข้ามาร่วมทัพกับ “ราชันชุดขาว” แต่ยังด้วยดีกรีวัยละอ่อนที่สามารถสร้างความแตกต่างได้แทบจะทันที ฟอร์มของเอ็นดริคในแมตช์นี้อาจไม่ได้หวือหวาตลอด 90 นาที แต่จังหวะจบสกอร์ที่ทำได้ในนาทีที่ 25 แสดงให้เห็นถึงสัญชาตญาณกองหน้าตัวจริง ไม่ว่าจะเป็นการยืนหาตำแหน่งแบบรู้ใจ และการจบสกอร์ที่เด็ดขาด ซึ่งเป็นสิ่งที่โค้ชและแฟนบอลต่างรอคอย

จุดแข็งของเอ็นดริคคือความปราดเปรียวในการเคลื่อนที่และสัมผัสบอลแรกที่ “นุ่ม” เป็นพิเศษ นั่นทำให้การเข้าทำดูเป็นธรรมชาติและไม่ขัดเขินเมื่อบรรจบกับแผงมิดฟิลด์ระดับเวิลด์คลาสของทีม แถมยังมีความสามารถในการดวลตัวต่อตัว ทั้งการกระชากหนีแนวรับหรือพยายามหาช่องยิงเองได้อย่างน่าทึ่ง แน่นอนว่ายังมีหลายจังหวะที่เขาอาจต้องเรียนรู้ในการเล่นเป็นระบบของ “ราชันชุดขาว” แต่ด้วยศักยภาพและอายุที่ยังน้อย บอกเลยว่าเอ็นดริคน่าจะมีอนาคตไกลในลีกสเปนและเวทีระดับยุโรปอย่างแน่นอน

สรุปการแข่งขัน ชุดขาว ชนะ เลกาเนส แบบฉิ่วเฉียด

จบลงไปแบบสุดดราม่า สำหรับแมตช์ที่แฟนบอลเรียกว่า “ให้ลุ้นหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ” เพราะกว่าจะได้ประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนั้น บอกเลยว่าสาวก “ราชันชุดขาว” มีร้องเฮ้ยพร้อมกันค่อนประเทศ! เกมนี้ไม่เพียงแสดงให้เห็นคุณภาพเชิงลึกของเรอัล มาดริด ที่ยังคงไว้ลายทีมระดับแถวหน้าของโลก แต่ยังเป็นการบ่งบอกว่าเลกาเนสเองก็ไม่ได้เป็นรองมากนัก เพราะสามารถกลับมาตีเสมอ 2-2 ทั้งที่ตกเป็นรองถึงสองประตูในช่วงแรก

สิ่งหนึ่งที่ได้เห็นอย่างชัดเจน คือความมุ่งมั่นของทั้งสองทีมในการล่าชัยชนะ เพราะสำหรับบอลถ้วยอย่างโกปา เดล เรย์ ไม่ว่าจะเป็นทีมใหญ่หรือทีมเล็กก็มีโอกาสจะสร้างเซอร์ไพรส์ได้ทั้งนั้น หากมีความทุ่มเทมากพอ ถึงแม้ท้ายที่สุดเรอัล มาดริด จะเป็นฝ่ายผ่านเข้ารอบตัดเชือก แต่เลกาเนสก็ออกจากรายการนี้ไปแบบน่าภาคภูมิ เพราะสู้สุดกำลังจนทำเอา “ราชันชุดขาว” เหงื่อแตกไม่ใช่น้อย

สำหรับแฟนบอลที่ยังอยากติดตามความสนุกต่อเนื่อง นัดถัดไปของเรอัล มาดริด พวกเขาจะต้องเปิดรังซานติอาโก้ เบร์นาเบว ต้อนรับการมาเยือนของ แอตเลติโก้ มาดริด ในศึกลา ลีกา สเปน บอกได้เลยว่าห้ามกะพริบตาแม้แต่ครั้งเดียว เพราะศึกมาดริดดาร์บี้ไม่ใช่งานง่ายแน่นอน และอย่าลืมติดตามบทสรุปปลายทางของโกปา เดล เรย์ ในรอบรองชนะเลิศ ว่าทีมยักษ์ขาวแห่งสเปนจะทะยานถึงรอบชิงได้หรือไม่

อ่านบทความอื่นๆที่น่าติดตาม